วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

มะพร้าว กับ สุขภาพของเรา



มะพร้าว


มะพร้าว พืชพรรณที่พบเห็นได้ทั่วไป ตามพื้นที่ชายทะเลทุกแห่งในประเทศไทย รวมทั้งได้ถูกกำหนดให้เป็นสัญลักษณะประจำมหาวิทยาลัยบูรพา
มะพร้าวเป็นพืชที่มีความผูกพันกับ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนไทยมาช้านาน คุณสมบัติที่ดีของมะพร้าว คือส่วนต่างๆ ของมะพร้าวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า และสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลากหลาย ตั้งแต่ ลำต้น ใบ ก้าน ผล กะลา รกมะพร้าว กาบมะพร้าว รากมะพร้าว
มะพร้าวเป็นพืชที่นิยมบริโภคในประเทศไทย เป็นอย่างมาก นิยมนำมาทำอาหาร ทั้งคาวหวาน นอกจากนั้น ยังสามารถนำมาทำอุตสาหกรรมน้ำมันมะพร้าว อุตสาหกรรมกะทิเข้มข้น มะพร้าวขูดแห้ง น้ำตาลมะพร้าว และอุตสาหกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของมะพร้าว เช่น เส้นใย ฯลฯ
ปัจจุบันคนไทยนิยมทานยอดมะพร้าวเป็นอาหารมากขึ้น เนื่องจากยอดมะพร้าวนำมาทำเป็นอาหารมากขึ้น เนื่องจากยอดมะพร้าวนำมาทำเป็นอาหาร ยำ ผัด แกง ฯลฯ โดยเฉพาะต้มยำกุ้งยอดมะพร้าว เป็นเมนูยอดนิยม ซึ่งยอดมะพร้าวเป็นอาหารชนิดหนึ่ง ที่ปลอดสารพิษ และเพิ่มเส้นใยอาหารได้ดี
สถาบันศิลปะและวัฒนธรรมฯ เห็นคุณค่าของมะพร้าวที่มีต่อวิถีชีวิตมนุษย์มายืนยาว จึงนำเสนอมะพร้าว รวมทั้งรวบรวมงานฝีมือต่างๆ ที่ใช้มะพร้าวเป็นองค์ประกอบ
ประโยชน์ทางยา
ส่วนที่ใช้เป็นยา คือเปลือกต้น เนื้อ น้ำมะพร้าว น้ำมัน กะลา ดอก ราก กาบ

สรรพคุณในตำรายาไทย
  • เปลือกต้นสด แก้เจ็บปวดฟัน และใช้ทาแก้หิด
  • เนื้อมะพร้าว รับประทานเป็นยาบำรุงกำลัง ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ แก้ไข้ กระหายน้ำ
  • น้ำมะพร้าว รสหวานเค็ม รับประทานเป็นยาระบาย แก้ท้องเสีย ขับปัสสาวะ แก้พิษ แก้กระหายน้ำ แก้นิ่ว แก้อาเจียนเป็นโลหิตและบวมน้ำ นอกจากนี้ยังทำเป็นน้ำส้มสายชูใช้ประโยชน์อื่น ๆ อีกมาก
  • น้ำมันมะพร้าว รสหวานเค็ม รับประทานเป็นยาบำรุงกำลัง หรือทาเป็นยาแก้กลากเกลื้อน บำรุงหัวใจ แก้โรคผิวหนังต่างๆ ทาแผลน้ำร้อนลวก ทาผิวหนังแตกแห้ง และใช้ทาผม
  • กะลา เป็นยาแก้ท้องเสีย แก้ปวดกระดูกและเอ็น
  • ดอก รสฝาดหวานหอม เป็นยาแก้เจ็บปากเจ็บคอ แก้ท้องเสีย แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ กล่อมเสมหะ บำรุงโลหิต แก้ปากเปื่อย
  • ราก รสฝาดหวานหอม เป็นยาแก้ท้องเสีย ขับปัสสาวะ หรืออมบ้วนปากแก้เจ็บคอ
ขนาดและวิธีใช้
  • ้แก้ปวดฟัน ใช้เปลือกต้นสด เผาไหม้ให้เป็นเถ้า นำมาสีฟัน
  • แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ใช้กะลามะพร้าวสะอาดเผาไฟจนแดงเอาคีมคีบเก็บไว้ในปีบสะอาด และปิดฝาจะได้ถ่านกะลาสีดำ เอามาบดเป็นผงรับประทาฯ ใช้คราวละ 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • รักษาแผลเป็น เอามะพร้าวก้นกะลาขูดออกมาแล้วบีบเอาน้ำมันได้เท่าไร เอาไปเคี่ยวจนสุกแล้วทิ้งไว้ให้เย็น เอายอกมะลิ กลั้นใจเด็ด 7 ยอด โขลกให้ละเอียด ผสมน้ำมันมะพร้าวที่เคี่ยวแล้ว ทาทุกวันแผลเป็นจะหาย

งานฝีมือจากมะพร้าว
มะพร้าว เป็นพืชที่มีความผูกพันกับ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนไทยมาช้านาน คุณสมบัติที่ดีของมะพร้าว คือ ส่วนต่างๆ ของมะพร้าวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า และสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลากหลาย ตั้งแต่ ลำต้น ใบ ก้าน ผล กะลา รากมะพร้าว กาบมะพร้าว รากมะพร้าวประเภทของรูปแบบผลิตภัณฑ์มะพร้าว เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานหัตถกรรม มีมากมายหลายชนิด ขึ้นอยู่กับวัสดุที่มาจากส่วนต่างๆ ของมะพร้าว เช่น
  • ก้านมะพร้าว หรือแกนใบ นำมาผลิตงานหัตถกรรมได้หลายอย่าง เช่น ไม้กวาด เสวียนหม้อ หรือก้นหม้อ ที่รองจาน เครื่องประดับข้างฝา โป๊ะไฟฟ้า พัด ที่หุ้มภาชนะปักดอกไม้ กระเป๋าถือสตรี กระจาดใส่ผลไม้ เป็นต้น
  • กาบมะพร้าวหรือเปลือกมะพร้าว มีคุณสมบัติแข็งแรง คงทนต่อน้ำและน้ำทะเล มีความยืดหยุ่น และสปริงดี นำมาทำเชือก ทำพรม กระสอบ แปรงชนิดต่างๆ อวน ไม้กวาด เส้นใบสั้นใช้อัดไส้ของที่นอน เบาะรถยนต์ เป็นต้น
  • ใบมะพร้าว ใช้สานเป็นภาชนะใส่ของชั่วคราว ห่อขนม สานหมวกกันแดด สานเป็นเครื่องเล่นเด็ก และผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกรูปสัตว์ต่างๆ ของที่ระลึกประดับตกแต่ง
  • รากมะพร้าว เป็นเส้นยาว เหนียวมาก ใช้สานเป็นผลิตภัณฑ์ใช้สอย จำพวกตะกร้า ถาด ภาชนะสำหรับดอกไม้หรือใส่ของต่างๆ ประดิษฐ์เป็นหัตถกรรมของที่ระลึก
  • รกมะพร้าว หรือเยื่อหุ้มคอมะพร้าว ลักษณะเป็นแผ่นใยหยาบบางๆ ยืดหยุ่นได้ แต่แยกขาดง่าย ใช้ผลิตหัตถกรรมประเภท กระเป๋า หมวก รองเท้าแตะ กล่องใส่ของ ดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น
  • กะลามะพร้าว มะพร้าวแก่จะมีความคงทนมาก ไม่หดตัวแม้ถูกน้ำ ถูกแดด แต่จะเปราะง่าย หักง่าย หากกระทบกับสิ่งที่แข็งๆ ใช้ทำผลิตภัณฑ์ ภาชนะ เครื่องประดับ เครื่องดนตรี ที่วางแก้วน้ำ กระบวยตักน้ำ ที่เขี่ยบุหรี่ เป็นต้น 

องุ่น กับ สุขภาพของเรา

        
          ทุกๆ ปี ณ แคว้นโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส คือดินแดนแรกของทวีปยุโรปที่เริ่มการเก็บเกี่ยวองุ่น ด้วยอากาศอบอุ่นที่มาเยือนก่อนแห่งใด ช่วยทำให้ผลองุ่นสุกปลั่ง สด และฉ่ำ จึงไม่เพียงช่วยในการดับกระหาย แต่ยังช่วยในเรื่องสุขภาพอีกด้วย เพราะองุ่นมีคุณสมบัติในการช่วยล้างสารพิษในร่างกาย และกระชับสัดส่วน ไขมันส่วนเกิน
ล็อคซิทานเลือกใช้แต่ผลผลิตจากองุ่นออร์แกนิค จาก The Domaine des Tuiles Bleues ณ เมืองมาโนสก์ แคว้นโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส ที่ใช้ระบบการเกษตรแบบออร์แกนิกมากว่า 20 ปี จึงรับประกันได้ว่าไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมีในการบำรุง และไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลงใดๆ ทั้งสิ้น

การเก็บเกี่ยวผลองุ่นจะ เริ่มทำกันในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ผลองุ่นออร์แกนิกจะถูกค้นน้ำสดๆ จากองุ่นสีดำที่มีคุณประโยชน์สูง ซึ่งรับประกันความปลอดภัยว่าปราศจากยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมี ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามิน แคลเซียม และโพแตสเซียม รวมถึงสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

การบำบัดด้วยองุ่น
กลุ่ม ผลิตภัณฑ์องุ่นจากล็อกซิทานได้แรงบันดาลใจจากขนบธรรมเนียมแห่งแคว้นโพรวองซ์ ในเรื่องการบำบัดด้วยองุ่น ซึ่งถือเป็นการบำบัดแบบธรรมชาติที่ได้ผลดีที่สุด การรับประทานองุ่นติดต่อกันจะสามารถล้างสารพิษที่สะสมในร่างกาย จากชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ ไม่มีเวลาดูแลตัวเองมากนัก
เพราะองุ่น ช่วยในการชำระล้างและฟื้นฟูระบบของร่างกายได้ดี ล็อกซิทานจึงคัดสรรกลุ่มผลิตภัณฑ์จากองุ่นเพื่อช่วยในการบำบัดของเสีย และลดอาการบวมน้ำของผิว  

สรรพคุณขององุ่น  
เป็น ที่รู้กันดีว่า องุ่นมีสรรพคุณในเรื่องความงามและสุขภาพ อุดมไปด้วยแร่ธาตุและกรดออร์แกนิก ช่วยคืนสมดุลให้ร่างกาย ทั้งยังมีวิตามินที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและการทำงานของกล้ามเนื้อ มีสารโพลีฟีนอลที่ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบหัวใจ และยังประกอบด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารในร่างกาย

ชมพู่ กับ สุขภาพของเรา

                                     

      ชมพู่เป็นผลไม้พื้นบ้านที่เรากินเล่นกันมา ตั้งแต่เด็ก แต่ที่จริงแล้วชมพู่สีเขียว สีแดงที่เราชอบกินนั้นเป็นผลไม้ที่เรานำเข้ามาปลูกจากอินโดนีเซียบ้าง จากมาเลเชียบ้างเรียกว่าเป็นผลไม้นอกได้ เต็มปาก
ชมพู่พื้นบ้านของเราจริงๆนั้นก็มีคือชมพู่ น้ำดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมจริง แต่เนื้อนิ่ม ฉ่ำน้ำ รสก็ออกเปรี้ยวอมหวาน ไม่หวานกรอบเหมือนชมพู่ สีแดง สีเขียวที่วางขายทั่วไป
ชมพู่นอกจากกินอร่อยแล้วยังเป็นผลไม้ที่มี สรรพคุณบำรุงหัวใจ เป็นยาชูกำลัง ทำให้กระชุ่มกระชวย มีวิตามินเอสูงช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินซีช่วยต้านอนุมูลอิสระเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนซ์
ผลชมพุ่ถ้า กินสดไม่หมดตากแห้งเอาไว้บดเป็นผงกินเป็นยาบำรุงกำลังก็ได้ 
นื้อสีขาวที่เป็น ใยด้านในของผล อุดมด้วยวิตามิน A สูงมากเมื่อเทียบกับผลไม้ทั่วไป ส่วนเมล็ดเป็นของดีที่ไม่ควรพลาดแก้เบาหวานได้ แก้ท้องเสีย แก้อาการอักเสบ และช่วยขับปัสสาวะได้อย่างดี ถ้ากินเยอะก็จะปัสสาวะบ่อย อาจทำให้อ่อนเพลียเพราะขาดเกลือแร่ได้ดังนั้นกินแต่พอดีจะมีประโยชน์กว่า

สรรพคุณทางสมุนไพรของชมพู่
ผลของชมพู่ มีสรรพคุณใช้เป็นยาชูกำลัง บำรุงหัวใจ และ ทำให้ชุ่มชื่น แก้ลมปลายไข้
เนื้อในที่เป็นใยของชมพู่ มีสรรพคุณใช้เป็นยาลดไข้ แก้ตาเจ็บ บำรุงสายตา
เมล็ดชมพู่ ใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย และแก้เบาหวาน
เปลือก, ต้น - แก้เบาหวานและแก้ท้องเสีย

ประโยชน์ต่อสุขภาพ
    รสและสรรพคุณยาไทย เอาเนื้อมาทำเป็นยาบำรุงกำลัง ทำให้เกิดความสดชื่นหอม โดยการเอาเนื้อชมพู่แห้งมาบดหรือรับประทานสดก็ได้ จะเกิดความสดชื่นขึ้นมาทันที สามารถนำมาบำรุงหัวใจได้มาก เพราะชมพู่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ


 ขอขอบคุณข้อมูล จาก  เพชรรัตน์ เหล่าปัญญากิจ  กุลสตรีดอทคอม

มะม่วง กับ สุขภาพของเรา


คุณประโยชน์ของมะม่วง
      ประโยชน์ด้านหลักที่มนุษย์ ได้รับจากมะม่วง ก็คือ ด้านอาหาร ผลมะม่วงได้รับการยกย่องในประเทศอินเดีย อันเป็นถิ่นกำเนิดว่าเป็น “ราชาแห่งผลไม้” ผลมะม่วงสามารถนำมากินได้ตั้งแต่ยังอ่อน ที่ชาวไทยเรียกว่ามะม่วง “ขบเผาะ” นั่นเอง เมื่อผลแก่มะม่วงจะมีทั้งรสเปรี้ยวหรือหวาน เนื่องจากมะม่วงมีมากมายหลายพันธุ์ จึงมีความแตกต่างในด้านรูปร่าง ขนาด รสชาติ กลิ่น สี ฯลฯ ของผล ทำให้เลือกนำมาบริโภคได้ตามความต้องการได้มากกว่าผลไม้ชนิดอื่น เช่น ผลมะม่วงดิบรสเปรี้ยวอาจนำมาจิ้มพริกกับเกลือ หรือนำไปใช้ตำน้ำพริกแทนมะนาว นำไปใช้ยำเป็นกับข้าว ผลมะม่วงดิบรสมันหรือหวานใช้กินเช่นเดียวกับผลสุกที่มีรสหวาน นำไปทำขนมต่างๆ หรือแปรรูป เช่น มะม่วงกวน แยมมะม่วง มะม่วงดอง น้ำมะม่วง ฯลฯ นอกจากผลแล้ว ใบอ่อนและช่อดอกของมะม่วงยังนำมากินเป็นผักได้อย่างหนึ่งด้วย
มะม่วง มีสรรพคุณทางสมุนไพรมากมาย ในประเทศอินเดียนำใบมะม่วงมาตากแห้งป่นเป็นผง ใช้รักษาโรคท้องร่วงและเบาหวาน ใบมะม่วงสดใช้เคี่ยวรักษาโรคเหงือก เนื้อในเมล็ดมะม่วงใช้ถ่ายพยาธิตัวกลม น้ำคั้นจากเมล็ดมะม่วงใช้แก้เลือดกำเดาไหล เป็นต้น
ตำราสรรพคุณยาไทย กล่าวถึง สรรพคุณด้านสมุนไพรของมะม่วงเอาไว้หลายประการ เช่น ผลสุกใช้บำรุงกำลัง เป็นยาระบายอ่อนๆ และขับปัสสาวะ เปลือกผลดิบเป็นยาคุมธาตุ ดอก เปลือก เนื้อในเมล็ดใช้แก้ท้องร่วง บิด อาเจียน ใบแห้งเผาเอาควันสูดใช้รักษาโรคเกี่ยวกับหลอดลม ยางจากผลและต้นผสมกับน้ำส้มหรือน้ำมันทาแก้คันแก้โรคผิวหนัง เป็นต้น
ดัง ที่ได้กล่าวมาในตอนต้นแล้วว่า มะม่วงถูกมนุษย์นำมาเพาะปลูกนานกว่า 4 พันปีแล้ว ทำให้มนุษย์มีความผูกพันกับมะม่วงมาก ชาวฮินดูเชื่อว่ามะม่วงกำเนิดมาจากภูเขาไกลาส อันเป็นที่ประทับของพระอิศวร ยิ่งกว่านั้นบางคัมภีร์ยังกล่าวว่า มะม่วงเป็นภาคหนึ่งของพระพรหม ชาวฮินดูจึงนับถือมะม่วงเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งในพิธีกรรมต่างๆ ที่เป็นมงคลต้องใช้มะม่วงเป็นส่วนประกอบด้วยเสมอ
ไม่เฉพาะชาวฮินดู เท่านั้นที่ถือว่ามะม่วงเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ แต่ชาวพุทธก็เช่นเดียวกัน คงเป็นเพราะพุทธศาสนาก็มีกำเนิดในอินเดียด้วยนั่นเอง ตัวอย่างเรื่องราวของมะม่วงที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าเรื่องหนึ่งก็คือ ชาวพุทธเชื่อว่า พระพุทธองค์ทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์ที่ต้นมะม่วง ซึ่งเรียกว่า คัณฑามพพฤกษ์ ณ เมืองสาวัตถี เนื่องจากยมกปาฏิหาริย์เป็นสุดยอดปาฏิหาริย์ซึ่งทำได้เฉพาะพระพุทธองค์เท่า นั้น และทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น จึงนับเป็นเหตุการณ์สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งในพุทธศาสนา เป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ ที่พุทธศาสนามีต่อหมู่เดียรถีย์ (พวกไม่มีศาสนา) และลัทธิอื่นๆในยุคนั้น ชาวพุทธจึงนับถือมะม่วงว่าเป็นต้นไม้พิเศษที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์เช่น เดียวกับต้นไม้บางชนิด เช่น ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นสาละ เป็นต้น
ในตำรา ปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้านของคนไทยตั้งแต่โบราณ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย กำหนดให้ปลูกมะม่วงในทิศใต้ของบ้าน มะม่วงกับคนไทยนั้นมีความผูกพันที่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรมา นานกว่า 700 ปี และความผูกพันนี้ยังคงเหนียวแน่นไม่เปลี่ยนแปลง ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างรูปแบบความรู้สึกของคนไทยที่มีต่อมะม่วง ซึ่งแสดงออกในรูปกวีนิพนธ์ของรัตนกวีท่านหนึ่งของไทยเมื่อ 250 ปีก่อนโน้น คือ พระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศ
* หมากม่วงดิบ ห่ามฝาน           ใส่ในจานพานตบะรอง
นั่งล้อมห้อมเนือง นอง                 จิ้มน้ำปลางาปิกิน ฯ
* หมากม่วงดิบ ห่ามให้              ปอกฝาน
งาปิน้ำปลาจาน                         จุ่มจิ้ม
นั่งล้อมห้อมกินกราน                  กินอยู่
เข็ดฟันผัน หน้ายิ้ม                      อิ่มเอื้อน ราถอย ฯ



มะนาว กับ สุขภาพของเรา


ประโยชน์ของมะนาว
     จากที่ได้ไปศึกษา ขวนขวายหาข้อมูล มะนาวนั้น มีสรรพคุณหลายเท่าเลย!!

          1. แก้ไอออกเลือด (ไอมีเลือดปน) - ใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา มะนาว 4 ลูก เกลือ 1 ช้อน หรือประมาณ 3-4 เม็ด ผสมให้เข้ากันดี ให้มีรสเปรี้ยวเค็มหวาน ใช้จิบทุกครั้งที่ไอ -ใช้มะนาว 108 ใบ เบี้ยจั๊กจั่น 11 ตัว ปูนขาวหนักประมาณ 4 บาท วิธีทำ คั้นน้ำมะนาว ใส่เบี้ยจั๊กจั่นและปูนขาวปนกัน ดองประมาณ 3 คืน รับประทานครั้งละจอกชา แก้ไอออกเลือดดี
          2. ต่อมทอนซิลอักเสบ เอาน้ำมะนาว น้ำผึ้งและปูนขาวผสมดื่ม แก้ทอนซิลอักเสบ
          3.แก้ซาง,ตุ่มในคอเด็ก,เสมหะ - เมล็ดมะนาวขับเสมหะแก้โรคซางของเด็ก แก้เม็ดยอดในปากโดยเอาเม็ดมะนาวเผาไฟ บดให้ละเอียด ใช้น้ำมะนาวหรือรากของมะนาวฝนกันน้ำเป็นกระสาย ผสมเข้าด้วยกัน แล้วกวาดซางเด็ก - ให้เอาน้ำมะนาว 1 ช้อนชา แล้วเอารากมะนาวฝนให้ข้นดี แล้วจึงเอาไปล้วงคอเด็กสัก 2-3 ครั้งก็หาย - ใช้เม็ดมะนาวเคี้ยวกิน ขับเสมหะ ใช้ติดต่อกัน 7 วัน ได้ผลดี
          4. แก้เสียงแหบแห้ง - มะนาวทำให้เสียงไม่แหบแห้ง ตื่นตอนตอนเช้าทุกครั้งให้ผ่ามะนาวครึ่งหนึ่ง จิ้มเกลือบีบน้ำลงคอกลืนกิน ทำทุกเช้าทุกวัน ทำให้เสียงไม่แหบแห้ง
          5. ก้างติดคอ - เมื่อก้างปลาติดคอ เอามะนาว 1 ลูกคั้น เอาแต่น้ำ เติมเกลือ น้ำตาลนิดหน่อยกรอกลงไปให้ตรงก้างที่ติดคอ อมไว้สักครู่ แล้วจึงค่อยกลืน ก้างจะอ่อนตัวหลุดลงไปในกระเพาะ - ก้างปลาติดคอซึ่งเป็นชิ้นเล็กๆ เมื่อกลืนน้ำลายจะทำให้รำคาญเท่านั้น ให้ผ่ามะนาวแล้วนำมาอมไว้ในปาก อมจนรู้สึกรสเปรี้ยวของมะนาวเจือจางสัก 2-3 หน จะทำให้ก้างหลุดออกไปได้
          6. แก้ไข้ - นำใบมะนาวมาหั่นฝอยๆ ชงด้วยน้ำเดือด ดื่มแบบน้ำชาจะช่วยลดไข้และใช้อมกลั้วคอฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย - ประเทศในทวีปอาฟริกาตะวันตกนิยมใช้เปลือกรากมะนาวต้มเป็นยาแก้ไข้อย่างดี และใช้ใบทำเป็นยาชงกินแก้ไข้ที่มีอาการตัวเหลืองเล็กน้อย นอกจากนี้ยังใช้น้ำมะนาวดื่มแก้กระหายน้ำ แก้ไข้อีกด้วย - ที่ประเทศอินเดีย ถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่ นิยมรักษาโดยดื่มน้ำมะนาวแล้วพักผ่อน ถ้าเป็นไข้หวัดธรรมดา จะรับประทานผลอินทผลัมและดื่มน้ำมะนาวรักษา
          7. แก้ไข้ทับระดู เอาใบมะนาว 100 ใบ มาต้มกินแล้วหาย
          8. แก้ปวดศีรษะ - เอามะนาวมาฝานเป็นซีกบางๆ แล้วเอาปูนที่กินกับหมาก ละเลงด้านหน้าของซีกมะนาวนั้นบางๆ แล้วปิดตรงขมับ ทำอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ อาการปวดก็ค่อยหายดีขึ้นทุกวัน - ใช้น้ำมะนาวผสมกับน้ำตาลสัก 1 แก้ว ดื่มตอนเช้า ช่วยให้หายจากโรควิงเวียนและปวดหัว - ชาวมาเลเซีย ใช้ใบมะนาวผสมกับน้ำมะนาว บดทำเป็นยาใส่ผมแก้ปวดศีรษะ - ประเทศในทวีปอาฟริกาตะวันตก ใช้ใบมะนาวตำให้ละเอียดถูศีรษะหรือเคี้ยวรากมะนาวแก้ปวดศีรษะ
          9. แก้เลือดออกตามไรฟัน - เกิดจากการขาดวิตามินซี ทำให้เหงือกบวมและมีเลือดออกตามไรฟันเป็นประจำ หรือมีเลือดออกได้ง่าย เช่น มีเลือดกำเดาไหล มีจุดพรายย้ำขึ้นตามผิวหนัง อาจมีเลือดออกจนซีดได้ ถ้าอาการรุนแรง จะมีอาการปวดน่อง ข้อเท้าบวม การรักษาให้กินมะนาวหรือผลไม้เปรี้ยวๆ เช่น ส้ม จะแก้ได้ - แก้โรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟัน ใช้มะนาวถูฟันสักพักเลือดก็จะหยุด
          10. แก้เหงือกบวม ใช้ลำสีชุบมะนาวเช็ดที่เหงือกวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
          11. แก้ลิ้นเป็นฝ้า ใช้ลำสีชุบมะนาวเช็ดที่ลิ้นวันละ 3ครั้ง
          12. ขจัดคราบบุหรี่ ใช้มะนาวถูฟันที่มีคราบบุหรี่จับ เมื่อใช้มะนาวถู คราบนั้นจะหาย ถ้าฟันผู้ที่รับประทานหมากต้องถูกบ่อยๆ ถ้าจับมากหลายวันแล้วต้องถอดฟันแช่น้ำมะนาวไว้ค้างคืน (หมายถึงผู้ใส่ฟันปลอมนะ) ฟันจะขาวสะอาดเงางาม
          13. ยาบ้วนปาก บีบน้ำมะนาวลงในแก้วสัก 2-3 หยดเท่านั้น บ้วนปากได้สะอาดยอดเยี่ยม
          14. แก้เป็นลมวิงเวียน อยากอาเจียน - ใช้มะนาวผ่าซีก โรยเกลือป่น เหยาะน้ำตาลทรายขาวสักนิดบีบกินลงไปพักเดียวหายเป็นปลิดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้จากการตั้งครรภ์ เมารถ แพ้อากาศ มะนาวช่วยคุณได้ - ใช้มะนาวจิ้มเกลืออมไว้ในปากสักครูจะรู้สึกสดชื่นจากการเป็นลมวิงเวียน หน้ามืดได้ - ใช้เปลือกมะนาวแกะออกแล้วบีบหรือดมใกล้จมูก แก้เป็นลม วิงเวียน หน้ามืดตาลาย - ด้านประเทศฟิลิปปินส์และประเทศจีน ใช้เปลือกลูกมะนาวขยี้ใก้ดมแก้คลื่นไส้หรือเป็นลม หมอพื้นเมืองชาวอินเดีย นิยมใช้น้ำมะนาวแก้อาเจียน
          15. แก้วิงเวียนเมื่อคลอดบุตร - เอามะนาวปอกใส่ภาชนะ 2-3 ลูก เพื่อให้คนที่คลอดบุตรนั้นกินแก้วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย - เอามะนาว 3 ผล เกลือป่นและพริกไทยป่นพอควร ละลายด้วยน้ำร้อน แทรกเหล้าโรงประทาณให้ได้สักครึ่งถ้วยชา เวลาตกฟากรับประทาน 1 ครั้ง หรือรับประทาณต่อไปอีกก็ได้ 16. แก้เมาเหล้า เมายา - ดื่มน้ำมะนาวหรืออมกับเกลือ สำหรับคนเมาเหล้าหรือวิงเวียนจะเป็นลม
          17. แก้ลมเงียบ เอาใบมะนาวมาต้มกินกับยาหอมประมาณ 1 อาทิตย์
          18. แก้ตาแดง เอามะนาวผ่า แล้วเอาเมล็ดในออกให้หมด แล้วก็บีบเอาน้ำมะนาวหยอดลงในตกทั้ง 2 ข้างหลายๆหยด สัก 1-2 นาที พอหายแสบแล้วล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด เช็ดหน้าเรียบร้อยแล้วก็สบาย และใช้มะนาวต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะหายตาแดง
          19. บำรุงตา ใช้มะนาวสดทั้งลูกฝานตามที่เห็นสมควร แล้วบีบใส่ตาประจำ ประมาณเดือนหรือสองเดือนครั้งก็ใช้ได้ (เนื่องจากตาเป็นอวันวะที่บอบบางมาก และน้ำมะนาวนั้นหยอดลงไปแล้วจะรู้สึกแสบตา ดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงไม่ควรใช้น้ำมะนาวนี้หยอดตา)
          20. บำรุงผิว เอาเปลือกที่บีบเอาน้ำออกแล้ว นำมาทาบริเวณข้อศอก คาง เข่า ฝ่าเท้า ส้นเท้า ช่วยให้ส่วนเหล่านั้นนุ่มนวลได้อย่างดี 




   21. แก้ผิวแตก ใช้มะนาวทาผิวหนังทำให้ชุ่มชื้น ไม่แตกกร้านในช่วงอากาศแห้ง
          22. แก้สิวฝ้า - ในกรณีที่สิวไม่มีการอักเสบติดเชื้อเป็นหนอง การรักษาอย่างง่ายที่ถูกวิธี คือ การทำความสะอาดใบหน้า เพื่อลดไขมันและกำจัดสิ่งอุดตันตามรูขุมขนบนใบหน้า หรือบริเวณอก คอ ที่มีสิวขึ้น ฉะนั้นมะนาวจะช่วยรักษาสิงให้ลดน้อยลงได้ เพราะน้ำมะนาวมีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆจะทำให้เนื้อเยื่อที่ตามแล้วหลุกออกไป ทำให้ลดการอุดตันของรูขุมขน กรดอ่อนๆจะช่วยกำจัดเชื้อโรคและช่วยกำจัดไขมันได้บ้าง วิธีใช้ คือ ล้างหน้าด้วยสบู่ธรรมดาให้สะอาดแล้วผ่ามะนาวทาบริเวณที่มีสิวขึ้นให้เปียก ชุ่มจนทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จึงล้างออกด้วยสบู่อีกครั้ง ทำเช่นนี้วันละ 1-2 ครั้ง เช้าและเย็น - ใช้แป้งดินสอพองกับน้ำมะนาวทาบริเวณที่เป็นสิวก่อนนอนทุกวัน สิวจะค่อยๆยุบหายไปในที่สุด - ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ช้อนชา ผสมกันให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาไปแต้มที่ตุ่มสิว หรือผู้ที่ไม่มีสิว ใช้ทาบางๆทั่วไปประมาณ 30 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสบู่ หน้าจะนิ่มนวลอยู่เสมอ
          23. ลบรอยแผลเป็น รอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุ ใช้น้ำมะนาวผสมดินสอพองทาบริเวณที่เป็น ทำให้หน้าไม่ดำ หรืออาจใช้ใบมะลิสดตำผสมเพิ่มเข้าไปอีกก็ได้
          24. แก้ขาลาย คนที่มีขาลายเป็นจุดด่างดำเม็ดเล็กๆนั้น แก้ได้โดยเอาน้ำมะนาวบีบใส่ดินสิพองหมาดๆ แล้วทาทุกๆคืนก่อนนอน พอรุ่งเช้าก็ล้างออก ทำอย่างนี้ทุกวัน ไม่นานวันรอยด่างดำก็ลบหายไปเอง
          25. แก้น้ำเหลืองเสีย ใช้ใบมะนาว 108 ใบกับเกลือหรือดีเกลือ 2 บาท หรือประมาณ 3 ช้อนคาวรวมกัน ต้มรับประทานเป็นยาระบายถ่ายน้ำเหลืองเสีย รับประทานครั้งละครึ่งถ้วยแก้วกลาง วันละ 1 ครั้งก่อนเข้านอน
          26. แก้ส้นเท้าแตก เอามะนาวสดผ่าซีกแล้วบีบมะนาวให้หยดลงบนบริเวณที่เป็นแผลนั้น เพียงวันละ 2-3 ครั้ ภายใน 7 วัน โรคส้นเท้าแตกจะหายไปเอง
          27. ดับกลิ่นเต่า ใช้น้ำมะนาวทารักแร้ป้องกันกลิ่นเต่า
          28. แก้โรคผิวหนัง ประเทศแถบทวีปอาฟริกาตะวันตกและประเทศอินเดีย ใช้น้ำมะนาวทาแก้โรคผิวหนัง แต่ของอินเดีย เวลาอาบน้ำ ห้ามฟอกสบู่บริเวณที่เป็น
          29. แก้กลาก เกลื้อน หิด - นำกำมะถันตำให้ละเอียดบีบมะนาวใส่พอสมควร ทาบริเวณที่เป็นเกลื้อนหลังอาบน้ำและก่อนนอน เคยใช้กับญาติโยมหลายราย ผลออกมาแล้วหายเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ - ใช้มะนาวผ่าซีกแตะผงกำมะถันแล้วมาถูบริเวณที่เป็นหิด กลากเกลื้อนจะกายในเร็ววัน
          30. แก้หูด เอาเปลือกมะนาวหมักกับน้ำส้มสายชู 2 วัน ตัดเปลือมะนาวมาปิดที่หูด ปิดทับด้วยพลาสเตอร์ค้างคืนไว้ รุ่งเช้าจึงเอาออก ให้ทำเช่นนี้นาน 2 อาทิตย์
          31. แก้พุพอง ใช้รากมะนาวฝนกับน้ำซาวข้าว ทาแก้พุพอง แสบร้อน
          32. แก้น้ำกัดเท้า ใช้มะนาวทาที่เป็นตุ่มคัน น้ำกัดเท้า ทาแล้วทิ้งให้แห้ง ล้างออกด้วยน้ำสบู่ ให้ผ้าเช็ดให้แห้ง แล้วเอาแป้งทา ตุ่มคันก็จะหาย
          33. แก้ปูนซีเมนต์กัด เวลาถูกปูนซีเมนต์กัดตามมือ เท้า เอามะนาวมาตัดกลางลูก แล้วบีบน้ำมะนาวตรงที่ปูนกัดก็จะหาย
          34. แก้คัน - ใช้มะนาวตัดกลางลูกรมไฟพออุ่น ถูทาตามที่คันภายใน 2-3 วัน จะหาย - เรื่องแก้คันนี้ในประเทศอินเดีย ใช้มะนาวผสมน้ำผึ้ง ทาบริเวณที่คันและเวลาอาบน้ำ อย่าฟอกสบู่บริเวณที่คัน ใช้ทาทุกครั้งเมื่อรู้สึกคัน
          35. แก้หนอนคัน แถวชนบทมีตัวหนอนหลายชนิด เมื่อเราไปถูกมันเข้าจะทำให้เนื้อตรงบริเวณนั้นคันมาถึงกับเน่าเปื่อยก็มี ถ้าไปถูกตัวหนอนแล้วคันแต่ยังไม่เปื่อยเป็นแผล ให้เอามะนาวผ่าซีกถูตรงที่คันนั้น แต่ถ้าเปื่อยเป็นแผลแล้ว ให้เอาบานไม่รู้โรยมาตำกับปูนที่กินกับหมากผสมน้ำเล็กน้อย ทาตรงแผยเปื่อยรับรองหาย
          36. แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย - ใช้ระงับความเจ็บปวดจากพิษแมลงได้ โดยใช้มะนาวพอกบริเวณปากแผลทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วเปลี่ยนใหม่ทำดูจะหายปวด - ในประเทศจีน ใช้ผลสดคั้นเอาน้ำ ทาบริเวณที่ถูกตะขาบกัด แมลงป่องต่อยทันทีจะแก้ได้
          37. แก้สังคัง ใช้มะนาวผ่าซีก ทาก่อนนอนและหลังตื่นนอน เพียงไม่กี่วันก็หาย
          38. ใช้สระผม แก้คันศีรษะ - ใช้น้ำมะนาวสระผมทำให้ผมสะอาด หอม - ถ้าคันศีรษะบ่อย ใช้น้ำมะนาวนวดศีรษะให้ทั่วสักครู่ก่อนสระผมจะแก้ได้
          39. แก้หัวโน ใช้แป้งดินสอพองผสมน้ำมะนาว ทาตรงที่ช้ำบวมสักพักใหญ่ๆ อาการปวดบวม ปูด ก็จะยุบ หมั่นทาวันละ 1-2 ครั้ง ภายใน 2 วันก็จะหายไปเอง
          40. แก้ผิวหนังฟกช้ำ ผสมน้ำมะนาวกับดินสอพองข้นๆ ทาบริเวณที่มีอาการผิวเนื้อถูกกระแทกเขียวฟกช้ำ หรือบวมโน จะหายเป็นปกติ  


41.แก้หนามปัก แก้หนามปักคา ใช้มะนาวกับน้ำมันตับปลา ใส่ที่แผลจะดูดหนามออกมาได้
          42. แก้เล็บขบ เอามะนาวมาผ่าตรงส่วนหัวออกขนาดพอสอดนิ้วเข้าไปได้ ใช้มีดคว้านเอาเนื้อข้างในออกเล็กน้อย เสร็จแล้วเอาปูนทาบางๆ แล้วเอานิ้วสอดเข้าไป แล้วทิ้งไว้ ทำดังนี้ 2-3 ครั้ง อาการเล็บขบจะหายไป
          43. แก้ปลาดุกยัก ใช้มะนาวผ่าซีกแล้วกดหรือถูครงรอยปลาดุกยักสักพักหนึ่ง จะหายปวดภายใน 4-5นาที
          44. แก้งูกัด แก้งูกัดให้ปฏิบัติดังนี้ 1. ให้คนเจ็บนอนราบๆ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายช้าลง และพิษงูจะได้แผ่ซ่านช้าลงด้วย 2. ถ้าถูกงูพิษกัดที่แขนและขา ให้เอาเชือกรัดเหนือแผลหน่อย กะให้รัดอยู่ในระหว่างแผลกับหัวใจของคนเจ็บ การรัดให้รัดพอให้เลือดตรงผิวหนังนั้นหยุดไหลเพื่อกันไม่ให้พิษผ่านเข้าเส้น โลหิตดำเท่านั้น ไม่ต้องรัดแน่นมากจนหลอกเลือดที่อยู่ลึกลงไปพลอยหยุดไหลไปด้วย ถ้ารัดพอดีๆจะสังเกตเห็นน้ำเหลืองไหลซึมออกจากแผลอยู่เรื่อยๆ 3. ใช้ใบมีดโกนที่สะอาดและฆ่าเชื้อแล้ว กรีดลงบนแผลเป็นรูปกากบาท ลึกสัก 1 ใน 8 นิ้ว ยาว สัก 1 ใน 4 นิ้ว ทั้ง 2 เขี้ยว อย่าตกใจว่าจะเสียเลือด เพราะมันจะช่วยล้างพิษออกด้วย ให้ใช้ปากดูดพิษออกมาจากแผลที่กรีด พิษงูจะไม่เป็นอันตรายเมื่อเข้าไปอยุ่ในปาก นอกจากจะมีแผลในปากหรือฟันผุเท่านั้น เมื่อดูดพิษออกมาให้รีบบ้วนทิ้ง แล้ววางน้ำแข็งที่แผลสลับกับการดูดช่วยด้วย และระวังให้แขน ขาที่ถูกงูกัดให้อยู่ต่ำๆไว้ หมายเหตุ ถ้าฟันผุหรือมีแผลในปาก ใช้ขวดอุ่นให้ร้อน (ระวังแตก) เอาปากขวดทาบกับแผล เพื่อช่วยดูดเลือดออกจากแผลแทน 4. ให้กินน้ำมะนาว ขนาดผลโตๆสัก 1 ผล น้ำมะนาวจะไปทำปฏิกิริยากับพิษงูที่แล่นเข้าสู่กระเพาะอาหาร สักครูก็จะอาเจียนออกมา มีเลือดปนเล้กน้อย ซึ่งแสดงว่าพิษงูได้หมดฤทธิ์แล้ว 5.คนเจ็บจะเกิดความมั่นใจและค่อยหายกลัว ให้เขาดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มร้อนๆได้ แต่อย่าให้กินเหล้า พิษงูมันเดินเข้าหัวใจอย่างช้าๆ แต่หลังจากที่ถูกงูกัด อาจปวดมากจนถึงกับช็อค ให้คนเจ็บอยู่เงียบๆ เพราะถ้าไปทำอะไรเข้า จะเป็นการเร่งพิษเดินทางเข้าสู่หัวใจเร็วเข้าอีก ให้ใช้น้ำแข็งหรือผ้าชุบน้ำแข็งวางที่แผล จะช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้ และรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาล
          45. ป้องกันงู เมื่อใช้มะนาวคั้นเอาน้ำหมดแล้ว เอาเปลือกวางท้องเอาไว้ใกล้ๆที่นอน จะทำให้งูไม่มารบกวน เพราะได้กลิ่นมะนาว
          46. แก้แมงคาเรืองเข้าหู นำน้ำมะนาวอย่างเดียว กรองด้วยผ้า ใช้หยอดหู แก้แมงคาเรืองเข้าหู ถ้าตัวยังไม่ตายจะหนีออกมา ถ้าไม่หนีออกมาตัวจะตายในหู
          47. แก้ฝี - แก้ปวดฝีใช้รากสดฝนกับเหล้าทา - ขูดเอาผิวมะนาว ผสมกับปูนแดงปิด ฝีจะหาย
          48. แก้ฝีมะตอย เอามะนาวทั้งลูก มาคว้านไส้ในออกให้เอานิ้วเข้าไปได้ แล้วเอาปูน(กินหมาก)ทาเข้าไปในลูกมะนาวเล็กน้อย แล้วสวมเข้านิ้วที่มีฝีขึ้น
          49. แก้แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ให้เอาน้ำมะนาวมาชะโลมบริเวณที่ถูกไฟไหม้หรือถูกน้ำร้อนลวก มีสรรพคุณดับพิษปวดแสบแวดร้อนได้ผล
          50. แก้บาดทะยัก เมื่อดถูตะปูตำ หนามเกี่ยว หรือถูกของที่มีคม เอาน้ำมะนาวบีบใส่แผลที่เป็น จะป้องกันบาดทะยักได้
          51. แก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ - แก้อาการปวดท้อง แน่นท้อง เอาผลมะนาวครึ่งผล บีบเอาน้ำมะนาวใช้กินกับน้ำอ้อย หรือน้ำตาล แก้อาการนี้ได้ - เด็กท้องอืดร้องกวนในเวลากลางคืน เอาปูนเคี้ยวหมากขยี้ลงบนฝ่ามือ บีบน้ำมะนาวคลุกให้ทั่ว แล้วทาท้องด็ก สักครู่เด็กจะผายลม 2-3 ครั้ง แล้วหยุกร้องไห้ หลับสบายตลอดคืน เพราะน้ำมะนาวทำปฏิกิริยากับปูน ให้ความร้อนเกิดความอบอุ่น
          52. รักษาโรคกระเพาะ เปลือกผลมะนาว ใช้ชงกับน้ำอุ่ม ดื่มเป็นยาขับลมและแก้โรคกระเพาะได้
          53. แก้ท้องผูก ใช้มะนาว ประมาณค่อนแก้วกาแฟ ใส่เกลือเล็กน้อย ให้เค็มพอประมาณ ดื่มทุกวันเป็นยาระบายได้ดี ทำให้เจริญอาหาร
          54. แก้ท้องร่วง ประเทศอินเดีย ใช้น้ำมะนาวกับน้ำสะอาดดื่มแก้ท้องร่วง
          55. แก้อาหารเป็นพิษ น้ำมะนาว น้ำปูนใส เติมเกลือให้มีรสเค็ม กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ แก้อาหารเป็นพิษ
          56. แก้ผิดสำแลง - รากมะนาว ฝนกับน้ำซาวข้าวรับประทานแก้ผิดอาหาร ถ้าได้รากมะนาวหวานยิ่งดี - เอามะนาวบีบเอาน้ำใส่ถ้วย แล้วเอาปูนกินหมากมาแช่น้ำ แล้วเอาน้ำใสๆของปูนมาผสมน้ำมะนาว แล้วรับประทานแก้กินของผิดได้เป็นอย่างดี
          57. แก้บิด - ใช้มะนาวกับน้ำผึ้งเอาเท่าๆกัน กินครั้งละ 1 ถ้วยตะไล สัก 2-3 ถ้วย แก้บิดได้ หรือจะผสมน้ำปูนใส อย่างละเท่าๆกัน ก็ได้ผลเช่นกัน - ชาวมาเลเซียใช้รากมะนาวต้มกินแก้บิด
          58. ขับพยาธิไส้เดือน ชาวอินเดียใช้น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งดื่มขับพยาธิไส้เดือน
          59. แก้นิ่ว เอามะนาวมา บีบมะนาวแช่หินปูน หากหินปูนละลาย ก็เอารากมะนาวนั้นมาต้มกิน แล้วนิ่วก็คือหินปูนในกระเพาะปัสสาวะจะอยู่ได้อย่างไรก็ต้องละลายออกมาหมด อย่างแน่นอน หากนิ่วก้อนใหญ่ก็ต้องใช้เวลาหน่อย

          60. แก้ปัสสาวะกระปริบกระปรอย ใช้ใบมะนาวสดต้มกินกับน้ำตาลแดง ประมาณ 2-3 วันก็หาย
          61. แก้ระดูขาว น้ำมะนาว 2 ช้อน เกลือ น้ำตาลนิดหน่อย ผสมน้ำสุก ใส่น้ำแข็งรับประทานแก้และรักษาสตรีมีระดูขาวมากๆ
          62. ฟอกโลหิต ใช้ใบมะนาว 7 ใบ ต้มผสมกับน้ำ กินครั้งละ 3 ถ้วยชา วันละ 3 เวลา ได้ผลดี
          63. แก้โลหิตจาง ให้เอาผลมะนาวผ่าซีก บีบเอาเฉพาะน้ำ ผสมกับน้ำหวานแล้วปรุงด้วยเกลือทะเลพอสมควร ใส่น้ำแข็ง ใช้รับประทานบ่อยๆ เป็นยาบำรุงโลหิต แก้โลหิตจาง และทำให้มีฟิวพรรณผุดผ่องมีน้ำมีนวล
          64. แก้เหน็บชา ให้เอาลูกมะนาวเท่าอายุคนป่วย ใช้มีดบางคมๆ ผ่าสองเอาหนึ่ง ส่วนที่ไม่เอาแล้วแต่เราจะเอาไปทำอะไร ให้เอาน้ำตาลทรายขาว 1 ลิตร เกลือ 1 ลิตร เอาน้ำ 4 ลิตร ต้มให้เดือด ยกลง พอเย็นหน่อยก็เทใส่ไห แล้วจึงเอามะนาวส่วนที่เอาเทลงดองไว้ในไห ปิดปากไห ไปฝังไว้ในข้าวเปลือก 7 วัน แล้วเอาน้ำมากินให้หมด แล้วเอากากไปตำตากแดดให้แห้ง เอามากินให้หมด โรคเหน็บชาจะหายไป
          65. แก้ร้อนในกระหายน้ำ มะนาวสามารถแก้ความกระหายได้ดี กินน้ำมะนาวใส่น้ำแข็งแล้ว จะรู้สึกชุ่มคอ
          66. แก้อ่อนเพลีย - ใช้มะนาว 1 ผลครึ่ง บีบเอาแต่น้ำใส่แก้ว แล้วใส่น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำให้ได้ประมาณครึ่งแก้ว กะให้หวานพอดี ดื่มให้หมด จะรู้สึกกระชุ่มกระชวยดี - เวลาฟื้นจากไข้ทานอาหารไม่อร่อยหรือไม่อยากทานอะไรเลยต้องแก้ด้วยอาหารที่มี รสเปรี้ยว ใส่มะนาวหรือชงน้ำมะนาวดื่ม หรือกินมะนาวจิ้มยาหอม หรือกินมะนาวจิ้มเกลือ
          67. เป็นยาอายุวัฒนะ - ใช้มะนาว 1 ลูกผ่าออกเอาเม็ดท้อง แล้วคั้นเอาน้ำชงกับน้ำตาล 2 ช้อน และน้ำร้อนพอควร ทำให้แข็งแรงและชุ่มชื่นในลำคอ - ใช้มะนาว 50 ผล น้ำผึ้ง 1 ขวดขาว พริกไทยร่อนครึ่งลิตรเล็ก ตำพริกไทยให้ป่น ใส่ผ้าขาวบางห่อ ใส่โหลดองรวมกันประมาณ 3 วัน นำมากินได้เป็นยาอายุวัฒนะ
          68.ยาเจริญอาหาร เอามะนาว 30 ลูกผ่าซีกทั้งเปลือกแล้วเอายาดำหนัก 5 บาท ใส่ดีเกลือเล็กน้อย หร้อมกับเกลือแกงอีกพอประมาณจนรู้สึกว่ามีรสเค็ม เอายาทั้งหมดใส่ขวดโหลดองไว้ประมาณ 3 คืน รับประทานมีสรรพคุณทำให้เป็นยาระบายถ่ายพยาธิ และเจริญอาหาร
          69. แก้ความดัน เอาใบมะนาว 108 ใบ ต้มรับประทานแก้โรคความดันต่ำและสูง
          70. แก้ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ (โรครูมาติซั่ม) ให้ดื่มน้ำมะนาว ดังนี้ วันที่ 1 ให้ดื่มน้ำมะนาว 2 ผล วันที่ 2 ให้ดื่มน้ำมะนาว 4 ผล แบ่งให้วันละ 2 ครั้ง วันที่ 3 ให้ดื่มน้ำมะนาว 6 ผล แบ่งให้วันละ 3 ครั้ง ให้เพิ่มมะนาวเรื่อยๆจนถึงวันที่ 10 ซึ่งใช้มะนาว 20 ผล แบ่งให้วันละ 5 ครั้ง วันที่ 11 ให้ดื่มน้ำมะนาวใหม่ 2 ผล วันที่ 12 ให้ดื่มน้ำมะนาวใหม่ 4 ผล แบ่งให้วันละ 2 ครั้ง ให้เพิ่มมะนาวเรื่อยๆจนถึงวันที่ 20 ซึ่งใช้มะนาว 20 ผล แบ่งให้วันละ 5 ครั้ง
          71. ลดความอ้วน การดื่มเครื่องดื่มต้องใส่น้ำตาลน้อยที่สุด และควรดื่มวันละ 8-10 แก้วทุกวัน ตื่นเช้าควรดื่มน้ำมะนาว 1 ผล ในน้ำอุ่นและขนมปังไม่เกิน 1 แผ่น ก่อนอาหารทุกมื้อควรดื่มน้ำมะนาวครึ่งผลผสมน้ำเย็น ก่อนอาหารกลางวันและอาหารเย็นจะช่วยให้อิ่ม อย่าให้ดื่มขณะที่ทานอาหาร ถ้ารู้สึกหิวก่อนเวลาอาหารไม่ว่ามื้อใด ให้รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือน้ำส้ม น้ำมะนาวสักแก้ว
          72. ใช้ในครัวเรือน - หุงข้าวให้ขาวและอร่อย บีบน้ำมะนาว 2-3 ช้อนในข้าว แล้วนำไปซาวข้าว เมื่อหุงเสร็จข้างจะขาว สะอาด กินอร่อย ไม่ออกรสมะนาวเลย - นิ้วมือเวลาเด็ดผักหรือหั่นผัก เนื้อใกล้ๆเล็บมือจะเป็นสีดำมองดูน่าเกลียด ใช้มะนาวถูจะแก้ได้ - เวลาใช้มีดผ่าปลีกล้วย มีดจะเป็นสีม่วงคล้ำ ใช้มะนาวผ่าซีกถูตามใบมีด มีดจะสะอาดดังเดิม - ทอดไข่เจียวให้ฟูและนิ่ม ขณะตีไข่ให้ใส่มะนาว 4-5 หยด ไข่จะฟูและนิ่ม - การเชื่อมกล้วยหักมุกให้น่ารับประทาน พอน้ำตาลเดือดเป็นยางมะตูม ให้บีบมะนาวครึ่งซีกตาม แต่กล้วยมากหรือน้อยจะช่วยให้กล้วยใสน่าทาน - ถ้าต้มปลาสด ต้องการให้ปลาคงรูปไม่เละ ไม่มีกลิ่นคาว ควรบีบมะนาวลงไปสักนิดหน่อย - ใช้มะนาว 2-3 ผล แทรกไว้ในข้าวสาร จะช่วยป้องกันมอดได้ - เปลือกมะนาวใช้เช็ดภาชนะ ทองเหลือง ทองแดง เครื่องเงิน เครื่องนาค เครื่องเงินจะใหม่ เงางามสุกใสขึ้น

          - ฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆ 2-3 ลูกใส่ในน้ำเย็น 1 ป๋อง ประมาณ 10 ลิตร เติมการบูร 2 แท่ง ตั้งทิ้งไว้ในห้องที่ทาสีใหม่ๆ ปิดประตู หน้าต่างให้หมด น้ำมะนาวและการบูรจะช่วยดูดกลิ่นสีได้อย่างดี - ผ้าที่เปื้อนน้ำหมาก เปื้อนหมึก ใช้น้ำตาลทรายเล็กน้อย โรยตรงรอยเปื้อนหยดน้ำลงไปพอชุ่ม แล้วถูด้วยมะนาวจะลบรอยเปื้อนได้ - เตารีดร้อนจัดรีดผ้าขาวจะทำให้ผ้าเหลือง ให้เอาน้ำมะนาวทาที่เตารีด ก่อนรีดผ้าจะแก้ได้ - ต้มผ้าให้สะอาด ฝานมะนาว 2-3 ชิ้น ใส่ด้วย ช่วยให้ผ้าสะอาด - ใช้มะนาว เกลือป่น ถูบริเวณที่เสื้อขาวเปื้อนเลือด ซักด้วยน้ำเย็นจะออกหมด - เครื่องใช้ที่เป็นหนังทิ้งไว้นานหลายปีทำให้แข็งกระด้าง เอาน้ำมะนาวขัดถู ทำให้หนังนิ่มแล้วใช้ยาขัดอีกที จะทำให้ดูใหม่ขึ้น
 


ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก ::edozone

ส้ม กับ สุขภาพของเรา

 
 
ประโยชน์ ของส้ม

       กินส้มวันละใบ ผลักไสมะเร็งได้มีคุณสมบัติเป็นตัวล้างพิษใหญ่
       นักวิจัยเมือง จิงโจ้พบในรายงานการศึกษาของหลายชาติ เรื่องการบริโภคผลไม้จำพวกมะนาว หรือส้ม ให้คุณแก่สุขภาพสรุปได้ว่า "กินส้มวันละใบ จะผลักไสโรคมะเร็งบางชนิดให้พ้นตัว ไปได้"
นักวิจัยขององค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมเครือจักรภพของรัฐบาล ออสเตรเลีย กล่าวแจ้งว่า ได้ค้นพบว่า การกินผลไม้พวกมะนาวหรือส้ม จะช่วยป้องกันมะเร็งที่ปาก กล่อง เสียง และกระเพาะลงได้ตั้งครึ่ง และยิ่งกินเพิ่ม นอกจากกินผักผลไม้วันละ 5 มื้ออยู่ประจำแล้ว ก็จะยิ่งช่วยให้ป้องกันอัมพาตได้อีกโรคหนึ่งได้ถึง 19 เปอร์เซ็นต์
ด้วย
        นักวิจัยของ องค์การคนหนึ่ง นางแคทรีน แบกเฮิสร์ทเปิดเผยว่า ผลไม้จำพวกมะนาวหรือส้ม ช่วยป้องกันโรคของร่างกายได้เพราะคุณสมบัติเป็นตัวล้างพิษของมัน พร้อมทั้งบำรุงระบบภูมิ คุ้มโรคให้แข็งแรง ขัดขวางเนื้อร้ายไม่ให้ลุกลาม และรักษาเซลล์เนื้อร้ายให้กลับคืนดีได้อีกด้วย
        รายงานการศึกษา ซึ่งทำจากผลงานการศึกษาของชาติต่างๆ จำนวน 48 เรื่อง ยังได้พบหลักฐาน อันน่าเชื่ออีกด้วยว่า ผลไม้เหล่านี้ยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอ้วนและ เบาหวานอีกด้วย ในบรรดาผลไม้พวกนี้ทั้งหมด ผลส้มจะมีสารที่มีคุณสมบัติเป็นตัวล้างพิษ อัน เป็นสารพฤกษเคมีชนิดต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 170 อย่าง รวมทั้งสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีสรรพคุณ ป้องกันการอักเสบ เป็นเนื้อร้าย และเลือดจับตัวเป็นก้อนไม่ต่ำกว่า 60 อย่างด้วย 

 

มะละกอ กับ สุขภาพของเรา

        มะละกอ (Papaya) เป็นไม้ผลชนิดหนึ่ง สูงประมาณ 5-10 เมตร มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง ผลดิบมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วเนื้อในจะมีสีเหลืองถึงส้ม นิยมนำมารับประทานทั้งสดและนำไปปรุงอาหาร เช่น ส้มตำ ฯลฯ หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็ได้

            นอกจากการนำมะละกอไปรับ ประทานสด ๆ แล้ว เรายังสามารถนำไปปรุงอาหาร เช่น ส้มตำ แกงส้ม ฯลฯ หรือนำไปหมักเนื้อให้นุ่มได้อีกด้วย เพราะในมะละกอมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งเรียกว่า พาพาอิน (Papain) ซึ่งสามารถนำเอนไซม์ชนิดนี้ไปใส่ในผงหมักเนื้อสำเร็จรูป บางครั้งนำไปทำเป็นยาช่วยย่อยสำหรับผู้ที่มีปัญหาอาหารไม่ย่อยก็ได้

ประโยชน์ของมะละกอ และ ประโยชน์ของมะละกอสุก
         มะละกอ เป็นไม้ผลที่มีการปลูกกันมากมาเป็นเวลาช้านานจนหลายคนเข้าใจกันว่าเป็นพื้น เมืองดั้งเดิมของไทย เนื่องจากเป็นพืชที่มีประโยชน์มากจนอาจกล่าวได้ว่าแทบทุกส่วนของต้นมะละกอมี ประโยชน์แทบทั้งสิ้นและคนไทยรู้จักคุ้นเคยและนำมะละกอไปใช้ประโยชน์มากมาย หลายอย่างในชีวิตประจำวัน แต่บางคนอาจคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ตนเองรับประทานหรือใช้อยู่นั้นเป็นมะละกอ หรือมีมะละกอเป็นองค์ประกอบอยู่ ซึ่งประโยชน์ของมะละกอมีดังนี้คือ ผลดิบใช้รับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทำแกงส้มและส้มตำอาหารหลักของชาวอีสาน หรือจะนำมาปรุงเป็นอาหารคาวหวานต่างๆแทนพวกแตงก็ได้  และนอกจากจะใช้เป็นอาหารประจำวันแล้วผลดิบยังสามารถนำมาใช้ผลิตเป็น อุตสาหกรรมอาหารกระป๋องได้หลายชนิด เช่น ทำมะละกอดอง  ซึ่งจะดองทั้งผล ครึ่งผลหรือหั่นเป็นชิ้นๆก็ได้ การดองมะละกอทั้งผลนั้นส่วนใหญ่เป็นการดองเพื่อเก็บไว้ใช้ในเวลาขาดแคลน โดยเฉพาะโรงงานผลิตซ๊อสมะละกอเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตปลากระป๋อง ส่วนการดองที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มักจะใช้ผสมกับผักดองอื่นๆบรรจุกระป๋อง เช่นพวกผักกระป๋องดองเป็นต้น นอกจากนี้มะละกอดิบสามารถนำมาผลิตเป็นมะละกอเชื่อม ผลิตเป็นอาหารว่างโดยผสมกับมะม่วง เช่น มะม่วงแช่อิ่ม เป็นต้น

             ผลมะละกอสุกเป็นผลไม้ ที่มีรสชาติหวานเย็นอร่อยและมีคุณค่าทางอาหารสูงประกอบด้วยน้ำาร้อยละ 88 น้ำตาลร้อยละ 10 โปรตีนร้อยละ 0.5 ไขมันร้อยละ 0.1 กรดร้อยละ 0.1 กากร้อยละ 0.6 และเยื่อใยร้อยละ 0.7 นอกจากนี้เนื้อมะละกอสุกยังมีวิตามิน เกลือแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก กล่าวคือ ในมะละกอจำนวน100 กรัมจะมีวิตามินเอ ถึงประมาณ 2,000 –3,000 หน่วยสากล มีไทอามีน 15 – 64ไมโครกรัม ไรโบฟลาวิน 28 – 83 ไมโครกรัม ไทอะซิน 0.15 – 0.76  ไมโครกรัมและกรดแอสคอบิค 33. – 136 มิลลิกรัมผลมะละกอสุกมีคุณสมบัติเป็นยาระบายแก้การท้องผูกได้ดี โดยส่วนมากจะใช้รับประทานแบบผลไม้สุก เป็นอาหารเช้า ของว่างหรือเป็นส่วนผสมในสลัดผลไม้ หรืออาจนำมาแปรรูปปรุงรสให้มีรสชาติดียิ่งขึ้น เช่นเป็นเครื่องดื่ม  เครื่องปรุงไอสครีมทำมะละกอเชื่อม ในปัจจุบันได้มีการนำเอามะละกอสุกมาใช้เป็นวัตถุดิบแทนในการผลิตอาหารมาก โดยเฉพาะการใช้ทดแทนมะเขือเทศเช่น ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตซ๊อสมะเขือเทศ ซ๊อสพริก น้ำมะเขือเทศเป็นต้น ทั้งนี้เนื่องจากมะละกอมีราคาถูกตลอดจนมีรส สี กลิ่นและแร่ธาตุต่างๆไม่ได้แตกต่างไปจากมะเขือเทศเท่าใดนัก จึงทำให้ผู้ผลิตนิยมมาก นอกจากนี้มะละกอสุกยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมการผลิตสลัดผล ไม้กระป๋อง น้ำแยมและมะละกอผงได้ดีอีกด้วย

          นอกจากผลมะละกอแล้วยาง มะละกอซึ่งมีสารอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า "ปาเปน" มีคุณสมบัติในการช่วยย่อยโปรตีนได้สูง คล้ายคลึงกับเอมไซม์เป็ปซินสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมได้หลาย อย่างเช่น อุตสาหกรรมการผลิตเบียร์และเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมเนื้อหรือปลากระป๋อง โดยนำไปทำเป็นผงเปื่อยทำให้เนื้อเปื่อย อุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ เช่น เป็นยาช่วยย่อยอาหาร ยาใส่แผลฆ่าเชื้อต่างๆ ใช้แช่หนังสัตว์ในอุตสาหกรรมการฟอกหนังและขนสัตว์มีความต้านทานต่อการหดตัว ใช้แยกออกจากไหมแท้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ นอกจากนี้ยังใช้ในอุตสากรรม การทำสบู่ ยาสีฬัน เครื่องสำอาง กระดาษและอุตสาหกรรมหมากฝรั่งส่วนเปลือกมะละกอสามานำมาใช้เป็นผลพลอยได้ โดยใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เป็นสีส่วนผสมของอาหารเป็นต้น นอกจากนั้นใบอ่อนยังรับประทานเป็นผักได้ เมล็ดใช้ทำยาบีบมดลูกยาแก้อาการละคายเคืองหรือยาถ่ายพยาธิ ยอดหรือลำต้นใช้เป็นอาหารสัตว์ รากและก้านใบก็ยังสามารถใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ยาถ่ายพยาธิ หรือใช้ซักผ้าแทนสบู่หรือผงซักฟอกได้อีกด้วย

           แต่โดย ทั่วไปแล้ววัตถุประสงค์ใหญ่ๆ ชาวสวนจะปลูกมะละกอเพื่อเก็บผลไปใช้ประโยชน์ในการบริโภคเป็นอาหารและวัตถุ ดิบในการอุตสาหกรรมต่างๆ ดังกล่าวอาจมีชาวสวนบางรายที่ปลูกมะละกอเพื่อรีดเอาน้ำยางแต่ไม่มากนัก ส่วนประโยชน์อย่างอื่นดังที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น   

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : pm.ac.th